ในบรรดาเทคนิคที่ใช้ในการพัฒนาคนที่มักพบบ่อยๆ และอาจจะสร้างความสงสัยถึงความเหมือน-แตกต่าง และ Key สำคัญ ของเทคนิคเหล่านั้น แก่ผู้ศึกษา ค้นคว้า หาเทคนิค/วิธีการ มาใช้นั้น เทคนิคเหล่านี้ ได้แก่ Coach, Mentor, Consult, Counseling/Therapy, NLP , Training ในที่นี้ จะขอสรุป โดยเปรียบเทียบลักษณะที่แตกต่างกันของแต่ละวิธี เท่านั้น
Coach vs Consulting
มีความสัมพันธ์กันระหว่าง 2 วิธีนี้ คือ โดยทั่วไป Consult จะเป็นผู้เชี่ยวชาญ (specialist) ใน Area หรือ ขอบเขตงานที่เฉพาะเจาะจงนั้นๆ โดยคนที่เป็น Consult จะให้คำแนะนำ (Recommend) และวิธีการ (Solution) แก่ลูกค้า/ผู้จ้าง และจะทำงานร่วมกับลูกค้า/ผู้จ้างในการแก้ปัญหาใดปัญหาหนึ่งที่เฉพาะเจาะจง และเมื่อปัญหาได้รับการแก้ไข งานของ Consult ก็จะจบเพียงแค่นั้น แต่ คนที่เป็น Coach จะไม่ให้วิธีการหรือคำแนะนำ แต่จะช่วย (Facilitate) ลูกค้า/ผู้จ้างในการวิเคราะห์สถานการณ์, สร้างแผนการดำเนินงาน และร่วมคิดไปกับลูกค้า/ผู้จ้าง เพื่อให้ได้แนวทางแก้ไขปัญหานั้นๆ ด้วยวิธีการของ ลูกค้า/ผู้จ้าง ที่คิดขึ้นได้เอง (ไม่ได้ให้วิธีการ แต่ช่วยสร้างแผนการตามความรู้และสถานการณ์ของลูกค้า/ผู้จ้าง)
Coach vs Counseling / Therapy (นักบำบัด)
ถึงแม้จะมีลักษณะคล้ายกัน ในเรื่องของการปรับ/เปลี่ยนพฤติกรรม แต่ก็มีสิ่งที่แตกต่างกันของ 2 วิธีนี้ คือ แนวทางของ Counseling จะโน้มเอียงไปในเรื่องของความรู้สึกและประสบการณ์ ในอดีต ขณะที่ Coaching มุ่งไปยังเป้าหมายและกระตุ้น / ให้กำลังใจกับลูกค้า/ผู้จ้าง ให้เกิดการกระทำไปข้างหน้าเพื่อบรรลุเป้าหมาย Counseling เป็นขบวนการที่ผู้ให้คำปรึกษา (นักบำบัด (therapist)) จะช่วยให้ผู้จ้าง/ลูกค้า/ เข้าใจสาเหตุของปัญหา และแนะนำให้ไปเข้าขบวนการเรียนรู้วิธีการรักษา/บำบัด เพื่อทำให้ผู้จ้าง/ลูกค้า ตัดสินใจ เพื่อชีวิตที่ดีขึ้น Coaching จะมุ่งเน้นไปที่ผลลัพธ์ (Result) ที่ต้องการไม่ใช่สำรวจปัญหา/สาเหตุของปัญหา แต่ให้ดูว่า ผู้จ้าง/ลูกค้า จะทำอย่างไรเพื่อให้ชีวิต ดำเนินไปอย่างมี ประสิทธิภาพ ไปสู่จุดหมายปลายทางอาชีพได้อย่างบรรลุเป้าหมาย
Coach vs Mentor (พี่เลี้ยง)
มีหลายสิ่งที่ทั้ง 2 วิธีการนี้คล้ายกันแต่ Mentor จะให้ความรู้สึก ในเรื่องของประเพณี หรือ วัฒนธรรม และให้เกิดการดำเนินการตามเส้นทางของผู้มาก่อน ซึ่งถือว่าเป็นผู้ที่มีความรู้ และ ประสบการณ์มากกว่า ในการพัฒนาผู้มาทีหลัง เชิงความรู้ และ/หรือ การดำเนินการวิธีทำงานตามรูปแบบ/วิธีการที่ปฏิบัติสืบต่อกันมา ในขณะที่ Coach ไม่ได้ดำเนินการบนพื้นฐานที่โค้ชมีประสบการณ์ตรง ในสายงานนั้นๆ key ของโค้ชมุ่งเน้นไปที่การกระตุ้นจูงใจให้ลูกค้า/ผู้จ้างสร้างเส้นทางชีวิต และดำเนินการในรูปแบบ/แนวทางของตัวเอง โดยปรับกรอบความคิดของลูกค้า/ผู้จ้าง ไม่ใช่เป็นการให้ความรู้ หรือ วิธีปฏิบัติ ดังนั้นประสบการณ์ของ Coach จึงเป็นเพียงตัวอย่างหนึ่งเท่านั้น
Coach กับ NLP
NLP เป็นเทคนิค/Model ที่มีประโยชน์มากในการดำเนินกรอบการ Coaching, เทคนิคของ NLP ให้เครื่องมือและทักษะ เพื่อการพัฒนาส่วนบุคลที่ดีเยี่ยม เป็นการสร้างระบบ ความเชื่อของมนุษย์ที่ทรงพลังอันจะนำไปสู่การเปลี่ยนแปลง ในอีกระดับของ NLP เป็นการช่วยให้มนุษย์ค้นพบตัวตน และสำรวจตัวเองเกี่ยวกับเป้าหมายชีวิตส่วนบุคคล อันจะทำให้เกิดความเข้าใจในศักยภาพของตัวเอง ในขณะที่ Coaching เป็นการนำเทคนิคต่างๆ, หลักการ และความเชี่ยวชาญของโค้ชเอง รวมถึง NLP มาใช้ในการพัฒนาศักยภาพของลูกค้า/ผู้จ้าง ตัว Coach เองอาจจะได้ศึกษา/ฝึกฝนโดยใช้เทคนิค NLP และนำ NLP มาประยุกต์ใช้ในงาน Coaching ก็ได้
Training และ Teaching : เป็นการให้ความรู้ โดยมีลำดับขั้นตอน ในอีกระดับคือการฝึกให้กับผู้เรียนปฏิบัติตามขั้นตอนที่ได้มีการสอน (Teach) เพื่อให้เกิดความชำนาญ ส่วน Teaching เป็นการสอนเพื่อเพิ่มพูนความรู้ใหม่ๆ ให้กับผู้เรียน
บ่อยครั้งที่การพัฒนาคน ต้องใช้หลายๆแนวทางผสมผสานกันไป ขึ้นอยู่กับ ปัจจัยหลายๆอย่าง ซึ่งอาจจะสรุปเป็นภาพรวมได้ตามรูปด้านล่างนี้ |